คงจะเคยได้ คำว่า  อโรมาเธราพี  มากันบ้างแล้วว่า
"กลิ่นหอมจากพืชสมุนไพรสามารถบำบัดรักษาอาการของโรคต่างๆ ได้"  
คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับ อโรมาเธราพี กันให้มากขึ้น

Aroma (อโรมา) หมายถึง กลิ่นหอม   Therapy (เธราพี) หมายถึง การบำบัดรักษา
Aromatherapy (อโรมา-เธราพี)  หมายถึง การบำบัดรักษาสุขภาพด้วยกลิ่นหอม
อโรมาเธราพี  คือ  การนำน้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากพืชและส่วนต่างๆของพืช
เช่น ดอก, ผล, เมล็ด,ก้าน, ลำต้น รากและใบ) มาใช้ประโยชน์สำหรับร่างกาย จิตใจ และอารมณ์
ตลอดจนความงาม เนื่องจากกลิ่นหอมสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเจ็บปวดได้
ในน้ำมันหอมระเหยนี้มีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สร้างความกระปรี้กระเปร่า สดชื่นสดใสได้



คำว่า อโรมาเธราพี   นำมาใช้ครั้งแรกโดย  เรเน มอรัชส กัตฟอส  (Rene Maurice Gattefosse)
นักเคมีชาวฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1928  โดยใช้หลักทางสรีรศาสตร์ที่ว่า มนุษย์สามารถสัมผัสกลิ่นได้มากกว่าหมื่นชนิด
กลิ่นที่มนุษย์ได้รับสัมผัสในแต่ละครั้งจะผ่านประสาทสัมผัสรับกลิ่น (Olfactory nerves)
ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูก  (Nasal cavity) เมื่อกลิ่นหอมจากละอองเกสรดอกไม้ต่างๆ
ผ่านกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory bulbs) ที่ติดต่อกับลิมบิค ซิสเต็ม (Limbic system)
ซึ่งเป็นสมองส่วนควบคุมอารมณ์ ความทรงจำ และการเรียนรู้ต่างๆ ของมนุษย์
จึงสามารถส่งผลกับอารมณ์และจิตใจได้โดยตรง


น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชสมุนไพรหลายชนิด ได้ถูกค้นคว้าวิจัยเพื่อนำมาบำบัดรักษาโรคต่างๆ
ซึ่งในตัวพืชสมุนไพรมีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาแตกต่างกันออกไป  เช่น น้ำมันหอมระเหย
ที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งเชื้อราและยีสต์บางชนิด  ให้ใช้น้ำมันหอมระเหยจากอบเชย
กานพลู การบูร ลาเวนเดอร์และยูคาลิปตัส  ถ้าจะคลายความเครียด นอนไม่หลับ  ให้ใช้น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์,
ดอกส้ม หญ้าแฝก หรือ โรสแมรี่  โดยใช้ทาหรือผสมกับน้ำอุ่นอาบก็ได้ 

สมัยนี้ใครไม่รู้จัก Aromatherapy (อโรมาเทอราพี) ขอบอกว่าตกรุ่นอย่างแรง... ถึงแม้ว่าเจ้าน้ำหอม Aromatherapy ที่แปลตรงตามตัวได้เลยคือ การรักษาด้วยกลิ่นนี้กำลังเป็นที่ฮิต นิยมกันทั้งเมือง แต่ถึงกระนั้น จะมีสักกี่คนกันเชียว ที่รู้จักใช้น้ำมันหอมนี้ได้อย่างถูกวิธีถูกสรรพคุณ...
การใช้น้ำหอม Aromatherapy นี้มี 2 แบบคือแบบทาถูให้ซึมเข้าสู่ใต้ผิวหนัง และการสูดดมเอากลิ่นเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งวิธีการใช้ทั้ง 2 แบบนี้ ก็ยังแตกออกได้หลายสไตล์ ตามความสะดวกของผู้ใช้ค่ะ

1. ใช้นวด
การใช้น้ำมันหอม Aromatherapy นวดตัวคือวิธีที่เพลิดเพลินเจริญใจที่สุด เพราะนอกจากตัวยาต่าง ๆ ในน้ำมันที่คุณเลือกใช้นั้นจะได้สัมผัสตรงเข้าสู่ผิวหนัง ช่วยบำบัดคลายเครียดคลายปวดแล้ว การนวดก็ยังช่วยคลายความเมื่อยล้าให้กล้ามเนื้ออีกด้วย

2. ใช้ควบคู่กับการอาบน้ำ
การอาบน้ำด้วย Aromatherapy นี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดตามร่างกาย ปวดข้อปวดกล้ามเนื้อต่าง ๆ และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาอาการโรคนอนไม่หลับ ให้กลายเป็นนอนหลับสบายไร้กังวลได้ด้วย เริ่มโดยเติมน้ำในอ่างอาบน้ำให้เต็ม แล้วหยดน้ำมันหอม Aromatherapy กลิ่นลาเวนเดอร์ ผสมลงไปประมาณ 5-10 หยด ระวังอย่าใช้น้ำร้อนเกินไปเพราะน้ำมันหอมจะระเหยออกไปหมด ตีน้ำและน้ำมันให้เข้ากันดี แล้วจึงลงไปนอนแช่สบาย ๆ ประมาณ 20-30 นาที

3. สูดดมจากไอน้ำระเหย
วิธีนี้เหมาะที่สุดสำหรับรักษาโรคทรวงอก ลำคอและระบบทางเดินหายใจ แต่ห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคหืดเด็ดขาด คุณทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเทน้ำเดือดลงในชามอ่างขนาดกำลังดี แล้วหยดน้ำมันยูคาลิปตัสลงไปประมาณ 10 หยด ก้มหน้าเหนือชามอ่างนั้น แล้วใช้ผ้าขนหนูชนิดหนาคลุมศรีษะคุณและชามอ่างด้วย สูดหายใจลึก ๆ เอาไอน้ำระเหยให้ผ่านจมูก ผ่านคอ ประมาณ 10 นาที

4. หอมระเหย
คุณสามารถหาซื้อเตาสวย ๆ สำหรับใช้ต้มน้ำมันหอมได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ตลาดนัดจตุจักร และร้าน Body Shop และความร้อนของเทียนไขจากเตา จะช่วยให้น้ำมันกลายเป็นไอระเหยหอมจรุงไปทั่วห้อง หากคุณต้องการฆ่าเชื้อแบคทีเรียภายในห้อง ก็ใช้น้ำมันโรสแมรี่ผสมกับยูคาลิปตัส เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอยากผ่อนคลายก็ใช้กลิ่นลาเวนเดอร์.. เลือกกลิ่นที่คุณชอบได้เลยค่ะ

5. การประคบ
เราใช้วิธีประคบเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดอักเสบของกล้ามเนื้อ และเพื่อบรรเทาอาการปวดศรีษะ วิธีทำลูกประคบเองที่บ้านก็ทำได้ง่ายจังดังนี้ หยดน้ำมันหอมที่มีสรรพคุณตามที่คุณต้องการ 4 หยดผสมกับน้ำ 1 ถ้วย หากคุณปวดเมื่อเนื้อตัวและกล้ามเนื้อให้ใช้น้ำอุ่น หากต้องการบรรเทาอาการปวดศรีษะให้ใช้น้ำเย็น คนน้ำและน้ำมันให้เข้ากัน แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบส่วนผสมนั้น บิดหมาดแล้วประคบลงบริเวณที่คุณต้องการ ทำแบบนี้ได้เรื่อย ๆ สัก 1 ชั่วโมงก็พอค่ะ

6. หยดบนหมอน
ถ้าคุณไม่มีเวลาจริง ๆ ก็ใช้น้ำมัน Aromatherapy นี้หยดลงบนหมอนสัก 2-3 หยดก่อนนอน คุณก็จะได้สูดดมเอาไอระเหยระหว่างที่กำลังหลับ หากคุณต้องการบรรเทาอาการปวดศรีษะ ให้ใช้น้ำมันกลิ่นเป๊ปเปอร์มินท์ หรือคุณรู้สึกจิตใจอ่อนล้าให้ใช้กลิ่นจัสมิน สำหรับใครที่นอนไม่หลับหรือเป็นคนหลับยาก ควรใช้กลิ่นลาเวนเดอร์หรือกลิ่นกุหลาบ จะช่วยให้หลับง่ายขึ้นค่ะ

7. ใช้ผสมในเครื่องดื่มน้ำผสมน้ำผึ้ง
น้ำมันหอมบางชนิดก็สามารถรับประทานได้ อย่างเช่น น้ำมันหอม Sandalwood (ไม้จันทน์) และ เป๊ปเปอร์มินท์ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้วิงเวียน เสียดท้อง อาหารไม่ย่อย โดยใช้น้ำร้อน 1 ถ้วย ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ หยดน้ำมันหอมที่มีสรรพคุณตามที่ต้องการลงไป 1 หยด คนให้เข้ากันแล้วดื่มให้ชื่นใจค่ะ
การใช้น้ำมันหอมผสมกับเครื่องดื่มนี้ คุณควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรือ Aromatherapist ก่อนจะดีกว่านะค่ะ




Team members

Sample image

Komsant Janthasema

Webmaster
kom2005@gmail.com
Sample image

Napart Nitirayut

Webmaster
napart_k@hotmail.com
Sample image

Kamon Lumbong

Webmaster
dmax6333@hotmail.com
Sample image

Nipa tapui

Webmaster
bansang@windowslive.com

Find Us On Facebook

 

Login Form

 

 
อัตราค่าบริการ
 

ศูนย์รับเรืองร้องเรียน

Sample image

ศูนย์บริหารจัดการ เรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุข

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์

gishealth

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทรัพยากรสุขภาพ.

ตรวจสอบสิทธิ การรักษา

ตรวจสอบสิทธิภาคประชาชน

ตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล

ข้อมูลสถิติ สาธารณสุข

Sample image

ระบบ Dashboard หน่วยบริการ